ในวันที่เขาได้พบกับเธออีกครั้งหนึ่ง ความรู้สึกลึกซึ้งก็เกิดขึ้นมาโดยทันทีที่ข้างใน
ช่างเหมือนวันเก่า เหมือนวันที่เขานั่งเหม่อ เหมือนวันที่เขาเจอะกับเธอใหม่ๆ
ในวันที่ฉันได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง ความหลังลึกซึ้งก็หวนเข้ามาในความทรงจำ
ภาพวันเก่า ๆ ภาพวันที่ฉันแอบมองเขานั่งเหม่อ วันที่ฉันเจอกับเขาครั้งแรก
และไม่เคยคาดคิดว่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน และเธอ ไม่เคยเลือนลางจากหัวใจ
ยังคง แอบหลงรักเธอเหมือนวันก่อนๆ จน เขา แทบซ่อน ไว้ ไม่ ไหว
เพราะไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เจอกันอีก ไม่ได้ตระเตรียมคำถามและคำตอบ
ถึงแม้ใจจะยังชอบ แต่ก็ต้องตอบแบบซ่อนความใน
เลยมี แค่ คำถามโง่ๆปิดบังเรื่องที่ซ่อนในใจ
ไม่ได้ลึก ไม่ได้ซึ้ง ไม่ได้สม ความคิด ถึงที่เก็บไว้
สบายดีไหม จะไปทางไหน เดินมายังไง มากับใครรึเปล่า
อยากจะพูดคุยกับเธอให้นานที่สุด แต่กลับไม่มีเรื่องที่จะพูดคุยได้ยาว
เขาถามฉัน…
สบายดีไหม จะไปทางไหน เดินมายังไง มากับใครรึเปล่า
….คนบ้า ก็เห็นอยู่ว่าเดินมาคนเดียว แล้วยังจะถามอีก
พยายามคิด คิดสักเท่าไร ก็วนกลับไปได้แค่คำถามเก่า
กลัวความรัก ความคิดถึง ที่ลึกซึ้ง ถูกเปิดเผยจากใจเขา
แกล้งทำเป็นยกมือขึ้นเพื่อทำเป็นดูนาฬิกา
ทำเป็นมองท้องฟ้าและพูดออกมาว่าถึงเวลาที่ต้องไป
ทั้งที่ใจเขานั้นบอก ว่าที่จริงเขานั้นอยากอยู่ ยืนเคียงคู่อยู่กับเธอใกล้ๆ
เขามองนาฬิกา บอกว่าถึงเวลาไป
….เขาทำใจฉันสั่นไหว อยากรั้งเอาไว้แต่ไม่กล้าพอ
ปลายเดือนเมษายน …หรือไม่ก็ต้นเดือนพฤษภาคมปี 1997
ปลายเดือนเมษายน…เอ๊ หรือว่าต้นพฤษภาคมปี 97 กันนะ
เขาพบผู้หญิงคนหนึ่งเขาอายุ 16 ปี เธออายุ 14 ปี เขาเฝ้ามองเธอห่างๆอยู่นาน จนวันหนึ่ง วันที่อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าโปร่ง แต่ไม่ร้อน ที่ฝรั่งเศส ที่ปารีส ที่หอไอเฟล ที่สถานที่แห่งนั้น เขาบอกรักเธอ เธอบอกว่าเธอรู้ และเธอก็ชอบเขาเช่นกัน ทั้งคู่เป็นแฟนกัน…
ฉันอายุ 14 ปี ส่วนเขาอายุ 16 ฉันแอบดูเขาที่เฝ้ามองฉันอยู่นาน ใจก็อยากเข้าไปทักก่อนแต่ก็ไม่กล้าพอ จนวันหนึ่งที่อากาศสดใส ท้องฟ้าเป็นใจให้ความรัก ที่สถานที่แห่งนั้น ที่หอไอเฟล เขาบอกรักฉัน ฉันบอกว่าฉันรู้และฉันก็ชอบเขาเช่นกัน …เราเป็นแฟนกัน
กลางปี 1997
เพียงไม่นาน เวลาแห่งความสุขของเธอ และเขาจบลง ไม่ใช่เพราะเธอ แต่เป็นเพราะเขา เขาทำร้ายเธอ ด้วยความเป็นตัวเขา ตัวเขาที่ไม่เคยแก้หาย ทิฐิแห่งความเป็นเขา ทุกๆอย่างแห่งความเป็นเขา …ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทั้งคู่ เคยให้คำสัญญากัน เขาจะเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นที่ 1 ของประเทศ เธอก็จะเข้าโรงเรียนมัธยมที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศ เขาจะเข้าเรียนในคณะบริหารธุรกิจ เพราะอยากเป็นนักธุรกิจชื่อดัง เธอจะเข้าสายวิทย์ เพื่อจะเป็นวิศวกร เหมือนคุณพ่อของเธอ แล้วเธอก็จะเข้ามาอยู่มหาวิยาลัยเดียวกันกับเขา เพื่อจะได้เจอกันมากขึ้น… ความฝันเด็กๆจบลง …เขาเป็นคนทำลาย
กลางปี 97
เพียงไม่นานเขาก็เปลี่ยนไป เวลาแห่งความสุขของเราจบลง ฉันทำอะไรผิด เขาทำร้ายฉันทำไม ก่อนหน้านั้นเราสัญญากันยิ่งใหญ่ เขาจะเข้ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศ ฉันก็จะเข้าโรงเรียนมัธยมอันดับ 1 ของแระเทศด้วยเช่นกัน เขาจะเรียนบริหารส่วนฉันต้องการเป็นวิศวะ แล้วฉันก็จะพยายามเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับเขาเพื่อที่เราจะได้เจอกันมากขึ้น…ความฝันที่ยิ่งใหญ่ของฉันจบลงและเขาเป็นคนทำลาย
ปี 1998 – 1999
เขาไม่เคยลืมเธอได้ แต่เขาก็ไม่อาจจะหยิบโทรศัพท์โทรไปหาเธอ ด้วยความเป็นตัวเขา ตัวเขาที่ไม่เคยแก้หาย ทิฐิแห่งความเป็นเขา ทุกๆอย่างแห่งความเป็นเขา …เหมือนเธอหายไปจากชีวิตเขา แต่เธอไม่เคยหายไป… เขาเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศได้ เขาได้เรียนในคณะที่อยากเรียน เธอ… เขาไม่รู้ แต่เขาเชื่อลึกๆว่าเธอ ทำได้
ปี 98-99
ฉันพยายามจะลืมเขา ฉันมองโทรศัพท์หลายครั้งเพราะหวังว่าเขาจะโทรมา
…โทรศัพท์ไม่เคยดัง ฉันได้แต่หวังไปคนเดียว
วันประกาศผลเอนทรานซ์มาถึง ฉันมองหาชื่อนามสกุลเขาที่บอร์ด
ฉันเชื่อ…เขาทำได้…และฉันก็ทำได้เช่นกัน
ปี 2000
เธอเริ่มกลับเข้ามามีชีวิตอีกครั้งในชีวิตของเขา เพื่อนสนิทของเขา เป็นเพื่อนกับพี่สาวของเธอ …เขาพยายามไม่ซักถามอะไรมากมาย เขายังไม่อยาก ไม่กล้า และ ด้วยความเป็นตัวเขา ตัวเขาที่ไม่เคยแก้หาย ทิฐิแห่งความเป็นเขา ทุกๆอย่างแห่งความเป็นเขา …เหมือนเธอหายไปจากชีวิตเขา แต่เธอไม่เคยหายไป… อย่างที่เขาเชื่อ เธอทำสำเร็จ เธออยู่ในโรงเรียนมัธยมอันดับ 1 ของประเทศ แต่เธอเลือกที่จะไปอยู่ที่อเมริกา 1 ปี เขาไม่อยากเทียบเวลาดูเลยว่า ปีที่เธอจากไปนั้น เป็นปีที่เขาทำร้ายเธอรึเปล่า …เขาเริ่มกลัว…
ปี 2000
ไม่น่าเชื่อ! เพื่อนสนิทของเขาเป็นเพื่อนกับพี่สาวฉัน…ฉันถามถึงเขาตลอดเวลา อยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขา แต่เพื่อนของพี่สาวฉันบอกว่าเขาไม่เคยถามถึงฉันเลย เขาลืมฉันไปเสียแล้ว ฉันหายไปจากชีวิตเขาแล้วจริง ๆ …ถึงจะสอบเข้าโรงเรียนอันดับ 1 ได้ก็ไม่สำคัญอะไรเลย ฉันเลือกที่จะไปอยู่อเมริกา 1 ปี ปีที่ฉันจากไปเป็นที่ฉันปวดร้าวใจที่สุด
ปี 2001
เขาพยายามลบเธออีกครั้ง แต่ตัวตนที่มีชีวิตชีวาของเธอเริ่มชัดเจนมากขึ้น เธอเหมือนว่าไม่เคยจากไปไหน… เขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน…
ปี 2001
ฉันพยายามลืมเขาอีกครั้ง…แต่ใจยังทำไม่ได้
เดือนพฤษภาคม 2002
โทรศัพท์สายหนึ่งจากเพื่อนเขาโทรเข้ามากลางดึก เขารับสาย ปลายทางบอกกับเขาว่า เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับเขาได้ เขาเชื่ออยู่แล้วว่าเธอทำได้ เธอจะเป็นวิศวกรสาวที่เก่งที่สุด เขาคิด ปลายสายบอกว่าเปล่า เธอเข้าคณะเดียวกันกับเขาต่างหาก… เขาเริ่มทำอะไรไม่ถูกหลังวางสาย เขาหาเบอร์โทรศัพท์บ้านเธอเจอจากสมุดโทรศัพท์เก่าๆที่เขาเก็บลึกในลิ้นชัก เขาโทรหาเธอ… เสียงปลายสายที่ไม่ได้ยินมานานเกือบ 6 ปี เขาเริ่มถาม "คำถามโง่ๆ" กับเธอ
เดือนพฤษภาคม 2002
ฉันละทิ้งความฝันที่จะเป็นวิศวกรตามพ่อ ฉันเลือกเข้าคณะเดียวกับเขา
คืนวันประกาศผลเอนทรานซ์ โทรศัพท์ที่หัวเตียงดัง…ใครนะโทรเข้าบ้านตอนดึก ๆ
เป็นเขานั่นเองที่โทรมา! เสียงปลายสายที่ไม่ได้ยินมานานเกือบ 6 ปี
ฉันตอบคำถามเขาอย่างใจลอย ใจนึกอยากชวนเขาพูดคุยแต่กลับไม่มีเรื่องจะพูดได้ยาว
จะชวนพูดคุยเรื่องอะไรก็กลัวความคิดถึงในใจมันถูกเผยออกมา
…คำถามโง่ๆปิดบังเรื่องที่ซ่อนในใจ ไม่ได้ลึก ไม่ได้ซึ้ง ไม่ได้สม ความคิด ถึงที่เก็บไว้
…สบายดีไหม ทำอะไรอยู่ จำพี่ได้มั้ย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
อยากจะพูดคุยกับเธอให้นานที่สุด แต่กลับไม่มีเรื่องที่จะพูดคุยได้ยาว
…พยายามคิด คิดสักเท่าไร ก็วนกลับไปได้แค่คำถามเก่า กลัวความรัก ความคิดถึง ที่ลึกซึ้ง ถูกเปิดเผยจากใจเขา
เขาได้แต่ตะกุกตะกัก พูดจาโง่ๆ และก็พูดแสดงความยินดีซ้ำไป ซ้ำมาอยู่อย่างนั้น…
ปีนั้นทั้งปี หลังจากเธอเข้ามาเรียนคณะเดียวกันกับเขา เหมือนว่าทุกๆอย่างเป็นโชคชะตากลั่นแกล้ง เธอกับเขามักจะได้เจอกันอยู่เรื่อยๆ สิ่งที่เขาทำ ก็มีแต่เพียงถามอะไรโง่ๆอยู่ซ้ำไปซ้ำมา… 1 ปีที่ได้อยู่ร่วมคณะเดียวกัน เขามีความสุข ไม่รู้ว่าเธอมีความสุขรึไม่?
ไม่รู้ว่าสวรรค์กลั่นแกล้งหรือโชคชะตาเล่นตลก ปีนั้นทั้งปีไม่ว่าฉันไปไหนก็พบแต่เขา เรามักเจอกันอยู่เรื่อย ๆ …ปีหนึ่งที่ได้อยู่ร่วมคณะเดียวกัน ฉันมีความสุขแต่ไม่รู้ว่าเขาจะมีความสุขหรือเปล่านะ
เดือนพฤษภาคม 2003
เขากำลังทำรายชื่อเพื่อโทรเชิญคนมาถ่ายรูปงานรับปริญญา เขาไม่ใส่ชื่อเธอ เพราะเขาไม่อยากให้ตัวเองทำอะไรโง่ๆอีก เขากำลังจะลบเธออีกครั้ง… จนแล้วจนรอด เขาก็เจอเธอในงานรับปริญญาจนได้… เธอถ่ายรูปกับเขา เขาเป็นบัณฑิต เธออยู่ปี 2 เขาเลือกที่จะหายไปจากชีวิตเธอ แทนที่จะลบเธออกไปจากชีวิตเขา ใจจริงเขาอยากดึงเธอมากอดไว้ แต่เขารู้ว่า ตอนนี้ ในเวลานี้ มันเป็นไปไม่ได้…
เดือนพฤษภาคม 2003
วันนี้เป็นวันรับปริญญาของเขา ฉันอยู่ปี 2 ฉันตื่นแต่เช้าไปงานรับปริญญาที่มหาวิทยาลัย ฉันเฝ้าแอบมองดูเขาถ่ายรูปกับใคร ๆ ในใจเฝ้าคิด ทำไมนะคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาตอนนี้ถึงไม่ใช่ฉัน …ฉันรวบรวมความกล้าถือดอกไม้ที่เลือกซื้ออย่างตั้งใจไปแสดงความยินดีกับเขา เราถ่ายรูปด้วยกัน เขายืนใกล้ฉันแต่ใจเรานั้นห่างกันแสนไกล
25 วันที่แล้ว…
งานรับปริญญาของเธอ เขาไม่เจอเธอ เขาหาเธอไม่เจอ เขาไม่มีเบอร์โทรศัพท์เธอ… ทั้ง 2 ไม่ได้เจอกัน เขาได้แต่คิดยินดีกับเธออยู่ในใจ ยินดีด้วยนะ เธอที่แสนดี…
25 วันที่แล้ว…
งานรับปริญญาของฉัน อยากให้เขามาใจแทบขาด แต่เบอร์โทรศัพท์เขาก็ไม่มี …ใคร ๆ ต่างยินดีที่ฉันเรียนจบ…ข้างนอกยิ้มสดใสแต่ข้างในเศร้าใจจนอยากร้องไห้
24 วันที่แล้ว
งานรับปริญญาวันที่ 2 เขาไปงานอีกวันหนึ่ง ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีก ไม่แม้แต่ฝัน แต่… หน้าคณะวิศวะ เขา เจอ เธอ… เขาถามคำถามโง่ๆอีกครั้ง
…คำถามโง่ๆปิดบังเรื่องที่ซ่อนในใจ ไม่ได้ลึก ไม่ได้ซึ้ง ไม่ได้สม ความคิด ถึงที่เก็บไว้
…สบายดีไหม จะไปทางไหน เดินมายังไง มากับใครรึเปล่า
อยากจะพูดคุยกับเธอให้นานที่สุด แต่กลับไม่มีเรื่องที่จะพูดคุยได้ยาว
…พยายามคิด คิดสักเท่าไร ก็วนกลับไปได้แค่คำถามเก่า กลัวความรัก ความคิดถึง ที่ลึกซึ้ง ถูกเปิดเผยจากใจเขา
เพียงแต่ว่าครั้งนี้เขากล้าพอที่จะนำเธอกลับมาในชีวิต
เขาขอเบอร์โทรศัพท์เธอ…
24 วันที่แล้ว…
งานรับปริญญาวันที่ 2 ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเขาแต่เราก็ได้พบกัน
หน้าคณะวิศวะ เขาถามคำถามที่เคยถามเสมอเวลาที่เราเจอกัน
…สบายดีไหม จะไปทางไหน เดินมายังไง มากับใครรึเปล่า
…คนบ้า..ถามคำถามเดิมอีกแล้ว…
ไม่เป็นไร ตอบเหมือนเดิมทุกครั้งนั่นแหละ…ก็มันคิดไม่ออกนี่นา
เจอเขาทีไรใจก็หวิว ๆ อยากพูด อยากคุยให้มาก ๆ ก็ไม่กล้า
กลัวความรัก ความคิดถึง ที่ลึกซึ้ง ถูกเปิดเผย
แต่วันนี้…
ฉันให้เบอร์โทรศัพท์เขาด้วยล่ะ…